SEARCH

ESG และภาษีคาร์บอนในประเทศไทย: ความท้าทายและโอกาสสำหรับธุรกิจ

Recent Posts

ESG และภาษีคาร์บอนในประเทศไทย: ความท้าทายและโอกาสสำหรับธุรกิจ

ESG และภาษีคาร์บอนในประเทศไทย: ความท้าทายและโอกาสสำหรับธุรกิจ   ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แนวคิด ESG (Environmental, Social, and […]

March 7, 2025

CMMS (ระบบการจัดการบำรุงรักษาด้วยคอมพิวเตอร์) ทำอะไรได้บ้าง?

CMMS (ระบบการจัดการบำรุงรักษาด้วยคอมพิวเตอร์) ทำอะไรได้บ้าง?   การวางแผนและการจัดตารางการผลิต: กุญแจสู่การทำงานที่มีประสิทธิภาพ    ในยุคที่การแข่งขันทางอุตสาหกรรมค่อนข้างสูง การวางแผนและการจัดตารางการผลิตที่มีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาประสิทธิภาพ ลดของเสีย […]

March 4, 2025

Stratus Ztc Edge, 19 – 21 November 2025

Stratus Ztc Edge, 19 – 21 November 2025 Time: 9:00 […]

February 26, 2025

ESG และภาษีคาร์บอนในประเทศไทย: ความท้าทายและโอกาสสำหรับธุรกิจ

March 7, 2025

ESG และภาษีคาร์บอนในประเทศไทย: ความท้าทายและโอกาสสำหรับธุรกิจ

 

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แนวคิด ESG (Environmental, Social, and Governance) ได้กลายเป็นประเด็นสำคัญที่ธุรกิจทั่วโลกให้ความสนใจ โดยเฉพาะในประเทศไทยที่กำลังเผชิญกับมาตรการด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดขึ้น หนึ่งในนโยบายที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อภาคธุรกิจคือ ภาษีคาร์บอน (Carbon Tax) ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและผลักดันให้ภาคอุตสาหกรรมเปลี่ยนไปสู่การดำเนินงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

 

ESG คืออะไร และเหตุใดจึงสำคัญ?

 

ESG เป็นแนวทางในการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึง 3 ด้านหลัก ได้แก่: 

 

  • E (Environmental): สิ่งแวดล้อมลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ใช้พลังงานหมุนเวียน และบริหารจัดการของเสียอย่างมีประสิทธิภาพ 
  • S (Social): สังคมปฏิบัติต่อพนักงานและชุมชนอย่างเป็นธรรม ส่งเสริมสิทธิมนุษยชน และให้ความสำคัญกับความปลอดภัยในการทำงาน 
  • G (Governance): ธรรมาภิบาลบริหารองค์กรด้วยความโปร่งใส ลดความเสี่ยงในการทุจริต และดำเนินธุรกิจอย่างมีจรรยาบรรณ 

ธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับ ESG ไม่เพียงแต่ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมและสังคมเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและดึงดูดนักลงทุนที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนอีกด้วย

 

ภาษีคาร์บอนในประเทศไทย

 

ภาษีคาร์บอน (Carbon Tax) เป็นหนึ่งในมาตรการที่รัฐบาลไทยกำลังพิจารณาใช้เพื่อลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) โดยแนวคิดหลักของภาษีนี้คือการกำหนดอัตราภาษีสำหรับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากภาคอุตสาหกรรม โดยมีเป้าหมายในการจูงใจให้ธุรกิจลดการใช้พลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิลและหันมาใช้พลังงานสะอาดมากขึ้น 

 

ผลกระทบของภาษีคาร์บอนต่อธุรกิจ 

 

  1. ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นธุรกิจที่ใช้พลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิลจะต้องเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้นจากภาษีคาร์บอน 
  2. การเปลี่ยนไปสู่พลังงานสะอาดองค์กรต้องพิจารณาการลงทุนในพลังงานหมุนเวียน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์หรือพลังงานลม เพื่อลดภาระภาษี 
  3. โอกาสในการแข่งขันบริษัทที่สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้เร็วกว่าคู่แข่งจะได้รับประโยชน์จากภาพลักษณ์ที่ดีขึ้นและอาจได้รับสิทธิพิเศษจากมาตรการภาครัฐ 
  4. ความต้องการด้านการรายงาน ESGนักลงทุนและผู้บริโภคให้ความสำคัญกับธุรกิจที่มีความโปร่งใสในการจัดทำรายงาน ESG ซึ่งรวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับการปล่อยคาร์บอนด้วย 

แนวทางการปรับตัวของธุรกิจไทย 

 

  1. ใช้เทคโนโลยีที่ช่วยลดคาร์บอนการปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิตให้ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น ระบบอัตโนมัติและ IoT 
  2. ลงทุนในพลังงานหมุนเวียนติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ หรือใช้ระบบพลังงานสะอาดเพื่อลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิล 
  3. นำแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) มาใช้ลดของเสีย และนำวัสดุกลับมาใช้ใหม่เพื่อช่วยลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ 
  4. ติดตามและรายงานข้อมูล ESGใช้ซอฟต์แวร์หรือระบบบริหารจัดการที่สามารถตรวจสอบและรายงานข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อมอย่างแม่นยำ 
  5. พัฒนากลยุทธ์ความยั่งยืนกำหนดเป้าหมายด้าน ESG และพัฒนาแผนปฏิบัติการเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล 

สรุป 

 

ESG และภาษีคาร์บอนเป็นแนวโน้มสำคัญที่ธุรกิจไทยไม่สามารถมองข้ามได้ การปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ไม่เพียงช่วยให้ธุรกิจสามารถลดต้นทุนจากภาษีคาร์บอน แต่ยังช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในตลาดที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนมากขึ้น องค์กรที่เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันนี้จะสามารถใช้โอกาสนี้ในการสร้างความได้เปรียบและเติบโตอย่างมั่นคงในอนาคต 

 

หากคุณต้องการทราบวิธีลดการปล่อยคาร์บอนและติดตามปริมาณการปล่อยคาร์บอนขององค์กรคุณ ติดต่อ Enlighten เราพร้อมช่วยคุณวางกลยุทธ์และใช้เทคโนโลยีในการลดคาร์บอนอย่างมีประสิทธิภาพ